ทิป การเขียน “รีซูเม่ (Resume)” ให้โดนใจ นักสรรหา (Recruitment)
การเขียนรีซูเม่ หรือ ประวัติส่วนตัวของตัวเอง เพื่อส่งให้กับเจ้าหน้าที่สรรหาบุคลากรที่เราไม่รู้จักเรา หรือ เราเองก็ไม่รู้จักเค้านั้น การเขียนจึงต้องมีการวางกลยุทธ์ เพื่อให้รีซูเม่ของเรานั้นสามารถพรีเซ้นท์หรือ ขายตัวเองให้น่าสนใจภายใต้เงื่อนไขของกระดาษ หรือ สื่อมัลติมีเดียที่เราส่งไปให้
การวางกลยุทธ์ในการเขียนรีซู่เม่ หรือ ประวัติส่วนตัวนั้น ขอแนะนำเทคนิค 5W1H คือ ใคร (Who) ทำไม (Why) อะไร (What) เมื่อไหร่ (When) เท่าไหร่ (How much)
1. ใคร (Who)
เมื่อเราเขียนรีซูเม่ หรือ ประวัติส่วนตัวของตัวเองนั้น เราจะต้องนำเสนอความเป็นเรา ผู้ซึ่งมีประวัติอย่างไรบ้าง จบการศึกษาสาขาอะไร ที่ไหน เกรดเท่าไหร่ และควรใส่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยตั้งแต่เด็กลงไป เผื่อคนที่ดูรีซูเม่จะคอนเน็คกับเราผ่านโรงเรียนเดียวกันแบบนี้เป็นต้น ระบุสิ่งที่เราทำแล้วสำเร็จ หรือ ได้รับการกล่าวชื่นชมจากคนอื่น ๆ ในอดีตที่ผ่านมา
ชมรมที่เข้าร่วม กิจกรรมที่ได้เข้าไปร่วม หรือ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมอาสา หรือ อื่น ๆ ก็สามารถระบุลงไปในรีซูเม่ได้ วิชาที่ชอบ กิจกรรมที่โปรดปรานก็สามารถบอกถึงความเป็นตัวตนของเราได้
ตรงส่วนนี้จะสำคัญมากสำหรับน้อง ๆ ที่จบใหม่และกำลังหางาน แม้กระทั่งหางาน และสมัครงานโรงงาน ก็ตาม เพราะสิ่งที่เราจะสามารถขายตัวเราเองได้ คือ การแสดงตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของเราให้เจ้าหน้าที่สรรหาผู้ที่คัดเลือกรีซู่เม่ส่งให้กับหัวหน้างานอีกที
อีกส่วนหนึ่งที่เราต้องศึกษา คือ เราต้องศึกษาองค์กรหรือ สมัครงานบริษัทที่เราเข้าไปสมัครว่าเป็นอุตสาหกรรมอะไร และสามารถออกแบบรีซูเม่ของเราเป็น ยูทูป เป็น พาวเวอร์พ้อย เป็นเพจเฟสบุ๊ค หรือ อื่น ๆ ที่แสดงความแตกต่างและขายความเป็นเราได้อย่างชัดเจนก็ได้ ทั้งนี้ต้องดูวัฒนธรรมของธุรกิจนั้น ๆ
2. ทำไม (Why)
ในรีซูเม่ ควรจะระบุ ว่าทำไมเราสนใจตำแหน่งงานอะไรบ้าง และเพราะอะไรทำไมเราถึงสนใจ เพราะเวลาคัดเลือกไปสมัครเราเจ้าหน้าที่สรรหาจะสามารถทำความเข้าใจในความต้องการของเราว่ามีแรงบันดาลใจ (Passion) ในงานนั้น ๆ หรือเปล่า และเราควรใส่งานที่เป็น Job Family เดียวกันลงไปด้วย เผื่อมีตำแหน่งอื่นที่ยังว่างอยู่ทางเจ้าหน้าที่สรรหาจะได้เสนอโอกาสให้ก็อาจเป็นไปได้
3. อะไร (What)
อะไรคือความรู้ ความสามารถ ทักษะ และความเชี่ยวชาญ (Competency) ของเรา หรือ ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของเรามีอะไรบ้าง ตรงส่วนนี้จะสำคัญมากสำหรับคนที่เคยผ่านงานมาแล้ว เราต้องเขียนสิ่งที่เราเคยรับผิดชอบมาในอดีต โดยยแบ่งเป็นงานประจำ งานโปรเจค งานท้าทาย งานที่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่เรียนรู้ หรือ การนำข้อมูล หรือ ความรู้ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้กับงานของตนเอง
4. เมื่อไหร่ (When)
หมายถึงเราต้องระบุในรีซูเม่ว่าเราสามารถพร้อมมาเริ่มงานได้เมื่อไหร่ หลังจากที่มีการตกลง เพื่อจะได้วางแผนว่าเราสามารถมาเริ่มงานกับบริษัทฯ นั้น ๆ ได้เมื่อไหร่ สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องให้เกียรติบริษัทที่ทำงานในปัจจุบันและควรลาออกก่อนล่วงหน้าตามกฎระเบียบของบริษัท หรือ ถ้าเราว่างงานเราก็สามารถระบุได้ว่า เริ่มงานได้ทันที
5. เท่าไหร่ (How much)
ในรีซูเม่ ควรจะระบุเงินเดือน และ ค่าจ้างอื่น ๆ รวมถึงสวัสดิการที่เราได้รับในปัจจุบันให้หมด พร้อมทั้งระบุเงินเดือนและสวัสดิการอื่น ๆ ที่เราคาดหวังลงไปในรีซูเม่ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทั้งสองฝ่ายกรณีที่เราต้องการเงินเดือนเกินกระบอกของบริษัทฯ ทางเจ้าหน้าที่จะได้วางแผนว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
